 |
| รีวิว Terminator Genisys |
ปีนี้ช่างเป็นปีทองสำหรับคอหนังยุค 80s-90s จริงๆ ที่ได้เห็นหนังที่เรารักและตัวละครที่เราชอบนั้นกลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง แม้ว่าแต่ละเรื่องจะถูกดัดแปลงให้อยู่ในบริบทและการตีความที่แตกต่างกันออกไปจากเดิม แต่โดยส่วนมากแล้วก็จะยังคงหัวใจของแฟรนไชส์ชุดนั้นอยู่โดยที่ขาดตกบกพร่องไม่มากนัก ล่าสุดก็เป็นทีของหนังในตำนานอันเป็นสัญลักษณ์ตลอดกาลของ Arnold Schawarzenegger อย่าง
Terminator ที่ 2 ภาคแรกนั้นน่าจะเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆ คนมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในภาค Genisys ก็ถือเป็น
Terminator ภาคที่ 5 ของชุด (จริงๆ ยังมีซีรีย์
The Terminator: Sarah Cornor Chronicles อีก) ที่หลายคนรอคอยและคาดหวังว่ามันจะกลับมาผงาดอีกครั้ง
 |
| รีวิว Terminator Genisys - pic1 |
สำหรับ
Terminator ภาคนี้เปรียบเสมือนการรื้อกระดานหนังชุดนี้เสียใหม่ โดยแทบไม่ใส่ใจ Timeline เรื่องราวของผ่านก่อนๆ ที่ผ่านมานัก ซึ่งหากใครได้ดูตัวอย่างก็จะได้เห็นความเซอร์ไพร์ซของเรื่องราวที่เปลี่ยนไปจากที่เราๆ เคยรู้มาจากในภาคก่อนๆ (ส่วนตัวมองว่า Trailer ของ
Terminator ภาคนี้นั้นมีการสปอยเรื่องราวที่มากเกินไปทั้งจุดหักมุมที่น่าจะชวนเหวอได้มากกว่าหากได้ดูในโรงจริงๆ) ความสนุกของหนังจึงอยู่ที่ความน่าติดตามในการจับต้นชนปลายกันใหม่ และคาดเดาว่าอนาคตในหนังนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใดจากอดีตที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปขนาดนั้น
 |
| รีวิว Terminator Genisys - pic2 |
นอกจากพล็อตเรื่องที่น่าติดตามในระดับหนึ่งแล้ว การได้เห็น Arnold Schawarzenegger กลับมารับบท
Terminator แบบเต็มตัวอีกครั้ง (หลังจากภาคก่อนใช้ CG แทน) ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่แฟนบอยของหนังชุดนี้ต่างถวิลหา อีกทั้งหนังยังมี Arnold เวอร์ชั่นหนุ่มที่ใช้ CG ทำมาอย่างเนียนกริบให้หายคิดถึงกันอีกด้วย ในด้านของ Emilia Clarke ในบท Sarah Corner นั้นถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากจากสาวลุยบู๊สะบั้นก็มีมุมอ่อนหวานน่ารักในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในภาคที่ผ่านมา แต่ท่าทางยังดูทมัดทแมงและขัดกับฉากแอคชั่นระห่ำอยุ่ไม่น้อย
 |
| รีวิว Terminator Genisys - pic3 |
เสียดายที่
Terminator Genisys นั้นมีองค์ประกอบที่ดีหลายอย่าง แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัจจัยที่ฉุดหนังลงอยู่หลายอย่างเช่นกัน ทั้งฉากแอคชั่นที่ดูแทบไม่มีอะไรใหม่ นอกจากการไล่ยิงหุ่นเหล็กตัวร้ายที่ขี้โกงกว่าเหมือนในทุกภาค (ยิงหมดแม็กทุกภาคก็ยังไม่ตายสักที) ทำให้ฉากแอคชั่นแม้จะดูอึกทึกโครมครามแต่ก็ยังไม่มีฉากใดดีพอให้น่าจดจำ ส่วนที่เหลือก็ถือว่าเอาใจแฟนคลับภาคก่อนๆ ได้ดี เพราะแม้หนังจะดูเหมือนแยกตัวเป็นเอกเทศจาก Timeline ทุกภาคที่ผ่านมาเป็นจักรวาลคู่ขนาน แต่มันก็ยังมีมุก มีบทพูดและการกระทำที่ถอดแบบมาจากภาคก่อนๆ มากมาย ซึ่งคนที่ไม่ได้ดูมาก่อนอาจเสียอรรถรสในส่วนนี้ไปค่อนข้างมาก และอาจตามเรื่องราวไม่ทันอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น