 |
| รีวิว เดชนางพญาผมขาว |
หลังจากเตรียมทำใจแล้วทำใจอีกก่อนที่จะไปดู
เดชนางพญาผมขาว เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ เพราะเห็นหลายกระทู้ในพันติ๊บก่นด่าสาปแช่งและถึงขนาดเดินออกจากโรงก่อนหนังจบกันเป็นว่าเล่น (ก็ไม่รู้ว่าจริงไหม) รวมไปถึง Rating จาก imdb ที่ต่ำเตี้ยลากดินเพียงแค่ 4.8 คะแนนเท่านั้น แม้กระทั่งคนใกล้ตัวก็ยังตัดกำลังใจด้วยการบอกว่าเป็นไม่กี่เรื่องที่หลับคาจอ แต่ด้วยความศรัทธา(อย่างที่สุด) ในความน่ารักของนางเอกสุดฮอตอย่าง ฟาน ปิง ปิง จนกระทั่งคิดว่าถึงหนังไม่สนุกแต่เห็นนางในจอใหญ่ก็คงฟินแล้ว อีกทั้งยังพอไว้ใจผลงานการทำหนังของ ฉีเคอะ ที่มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยๆ คิวบู๊ก็ดูสนุก ผ่านเกณฑ์แน่นอน ก็เลยทำให้ตัดสินใจไปดู
เดชนางพญาผมขาว ท่ามกลางกระแสในด้านลบจนได้
 |
| รีวิว เดชนางพญาผมขาว - pic1 |
โดย
เดชนางพญาผมขาว ในเวอร์ชั่นนี้เนื้อเรื่องก็ยังคงคล้ายๆ กับฉบับที่ตอนเด็กๆ เคยดู ซึ่งเริ่มต้นจาก จั่วอี้ ศิษย์สำนักบู๊ตึ๊งที่เดินทางไปมอบยาชูกำลังให้กับฮ่องเต้ แต่ยากลับโดนสับเปลี่ยนจนฮ่องเต้ม่องเท่งไปเพราะยาพิษแทน ทำให้จั่วอี้จึงโดนกล่าวหาว่าเป็นคนลอบปลงพระชน แต่ในระหว่างการเดินทางจั่วอี้ก็ได้พบรักกับ เลี่ยนหนีชาง สาวงามผู้ใช้ชีวิตอย่างโรบินฮู้ด แต่แล้วเรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อจั่วอี้พบว่าเลี่ยนหนีชางเป็นคนฆ่าปู่ของเขา ซึ่งความรักครั้งนี้จะลงเอยเช่นไร และจั่วอี้จะล้างมลธินให้สำนักบู๊ตึ๊งได้ไหมก็ต้องไปติดตามชมกันเอาเองครับ
 |
| รีวิว เดชนางพญาผมขาว - pic2 |
จริงๆ แล้วตัวต้นฉบับของนิยายเ
ดชนางพญาผมขาวนั้นน่าจะมีรายละเอียดที่ยิบย่อยมากพอสมควร ทั้งในเรื่องการเมือง ความรัก และแอคชั่น จนทำให้การตีความในแต่ละภาคที่ผ่านนั้นก็เลือกหยิบมาเน้นในบางประเด็น แต่ในเวอร์ชั่นของ ฉีเคอะ นั้นกลับหยิบทุกอย่างมาเล่าใน 2 ชั่วโมง ผลที่ได้ก็คือหนังค่อนข้างดูสนุกและครบรสในหลายๆ ด้าน รักไม่หวานเลี่ยนเกิน แอคชั่นไม่เกร่อ แต่ข้อเสียก็คงเป็นเรื่องที่หนังยังไปไม่สุดสักทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเด็นการเมืองที่จริงๆ น่าจะลงไปได้ลึกและน่าสนใจกว่านี้ แต่ส่วนตัวแล้วด้านความรักนั้นส่วนตัวก็ยังถือว่าผ่านเกณฑ์ด้วยการที่ใช้เวลาปูเรื่องนานจนทำให้เราได้เห็นถึงความสัมพันธ์และความรักของพระ-นางจนเผลอน้ำตาซึมได้ในบางฉากของเรื่อง
 |
| รีวิว เดชนางพญาผมขาว - pic3 |
ที่น่าแปลกใจที่สุดที่คือหลังเดินออกมาจากโรงก็แต่นึกใจนี่เราดูหนังเรื่องเดียวกันกับที่คนอื่นได้ดูกันไหม เพราะความเห็นมันช่างตรงข้ามเหลือเกินที่เราดันชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาซะงั้น ซึ่งจริงๆ ก็พอจะเข้าใจเพราะหนังมีหลายฉากที่คลี่คลายได้ง่ายจนเกินไป สำหรับคนที่มองข้ามไม่ได้อาจเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดเกินกว่าจะรับ รวมถึงหลายๆ ฉากที่ค่อนข้างโบราณ (แต่เรากลับมองว่าคลาสสิค อย่างเช่น Love Scene ใต้แสงจันโดยมีผ้าผ่อนห่มไว้มิดตัว พร้อมสภาพตื่นมาให้รู้ว่าได้กันเรียบร้อย หรือตัวละครเปลี่ยนการตัดสินใจอย่างง่ายดาย แม้จะดูเมหือนตัดสินใจแน่วแน่ไปแล้วเรียบร้อย) ก็คงเป็นแค่เพียงฉากตลกๆ ดูแปร่งๆ ของใครหลายคน แต่ด้วยความที่ตัวเองค่อนข้างชินกับสไตล์หนังจีนมาตั้งแต่เด็กเลยรู้สึกดูลื่นไหลไปได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรมากนัก แล้วกลับชอบด้วยซ้ำที่เห็นว่าหนังดูย้อนกลับไปเป็นหนังจีนแบบสมัยก่อนที่เคยได้ดูอีกครั้ง เพราะช่วงหลังๆ หนังจีนหลายเรื่องเน้นสาดเอฟเฟ็คกากๆ เข้าใส่โดยไม่สนใจคิวบู๊หรือเนื้อเรื่องกันอีกต่อไปแล้ว
ป.ล. ฟาน ปิง ปิง นี่คือแบบเจิดจรัสในเรื่องนี้มาก ไม่ว่าจะผมดำ ผมขาว ร่างมาร ก็น่ารักแบบไม่ให้พักหายใจ คือดูนางอย่างเดียวก็เพลินได้จนมองข้ามข้อผิดพลาดไปได้เกือบทั้งหมด ยิ่งแววตาสีฟ้าบลิ๊งๆ ยิ่งใจละลายเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น