 |
| รีวิว 12 Years a Slave |
ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเมื่อถึงเวลาประกาศรางวัลต่างๆ ก็ได้แต่เทใจเชียร์ให้กับ Gravity และ American Hustle ให้หอบรางวัลกลับบ้านเยอะๆ เพราะประทับใจทั้งสองเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องแอบแปลกใจอยู่ทุกครั้งที่เมื่อถึงการประกาศรางวัลใหญ่อย่างสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทีไร
12 Years a Slave ก็จะมาเนียนๆ สอยไปแบบนิ่มๆ ได้อยู่ทุกที จนสุดท้ายเมื่อหนังเข้าโรงก็ทนไม่ไหวที่จะต้องหาเวลาไปดูเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่าเพราะเหตุใด
12 Years a Slave ถึงได้เป็นขวัญใจทั้งนักวิจารณ์และคนดูมากถึงขนาดนี้ ซึ่งเมื่อได้ดูแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่า เคลียร์หมดทุกข้อกังขา เพราะหนังควรค่าแก่ทุกรางวัลที่มาเลยจริงๆ
 |
| 12 Years a Slave - Pic1 |
12 Years a Slave เล่าเรื่องจริงจากบันทึกของชายที่มีชื่อว่า โซโลมอน นอร์ทธัพ คนผิวสีที่เป็นไทโดยถูกกฏหมาย แต่แล้ววันหนึ่งกลับโดนลักพาตัวไป จนลงเอยในฐานะทาสนานถึง 12 ปี จนเป็นทีมาของชื่อเรื่อง ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่า
12 Years a Slave นั้นมีความโดดเด่นอยู่หลายด้านมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังสามารถมีสิทธิเข้าชิงอยู่ในเกือบทุกสาขาของแต่ละรางวัลที่มีการประกาศผล ถึงแม้ว่าจะได้รางวัลกลับมาบ้างหรือไม่ได้บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังมีแต่ละด้านอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากแล้วจริงๆ ทั้งทีมนักแสดงที่น่าปรบมือให้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Chiwetel Ejiofor ที่รับบทโซโลมอน ได้อย่างถึงใจ ผ่านทางแววตาและสีหน้าที่ดูแล้วเชื่อสุดๆ ส่วน Lupita Nyong'o ก็ทำหน้าที่ได้ดีจนไม่แปลกใจว่าทำไมเธอคนนี้ถึงเป็นตัวเต็งรางวัลสาขาสบทบหญิงยอดเยี่ยมได้สูสีกับ Jennifer Lawrence นัก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือทำไม Michael Fassbender ถึงไม่ได้รับความสนใจจากคณะกรรมการที่ผ่านมานัก เพราะเรื่องนี้เฮียแกเล่นแบบเลวระยำได้ถึงกึ๋นมาก เป็นตัวสร้างบรรยากาศตึงเครียดที่เลวร้ายที่สุดของเรื่องเลย
 |
| 12 Years a Slave - Pic2 |
ส่วนต่อมางานด้านภาพของ
12 Years a Slave นั้นแม้ว่าจะถูกถ่ายทอดออกมาแบบเรียบๆ ไม่ได้หวือหวาเหมือนฉากอวกาศอย่าง Gravity แต่ด้วยส่วนผสมของการแสดงที่เต็มเปี่ยม ซาวด์ประกอบที่หนักแน่น ทำให้ภาพจากการแช่กล้องในบางฉากนั้นสามารถบีบหัวใจได้อย่างทรมาน จนบางฉากต้องยอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งยอมรับเลยว่าไม่ใช่แค่เพียงฉากเดียว และถึงแม้ว่า
12 Years a Slave นั้นจะเป็นหนังรางวัลจ๋า แต่ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่หนังที่ดูยากแต่อย่างใด ด้วยประเด็นเรื่องที่ว่าด้วยคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ยิ่งทำให้คนดูเข้าถึงง่าย ได้ขบคิด ได้รู้สึกร่วมไปกับชะตาชีวิตของตัวละครต่างๆ อยู่ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งความทรมาน หดหู่ ความเจ็บปวดที่โหมเข้ามาใส่ตัวละครนั้นก็ทำให้คนดูรู้สึกไปในทางเดียวกันอยู่ตลอดเวลาที่รับชม
 |
| 12 Years a Slave - Pic3 |
สุดท้ายอยากจะแนะนำไว้ว่านี่ไม่ใช่หนังสำหรับคนโลกสวยที่อยากเห็นอะไรสวยงาม อยากเห็น Happy Ending อยากเข้ามาผ่อนคลาย เพราะหนังเรื่องนี้ไม่มีให้ แต่สิ่งที่
12 Years a Slave มีให้นั้นคือดราม่าเข้มข้นหนักแน่น ความรุนแรงที่กระทบจิตใจจนบางฉากเกินกว่าจะรับไหว เป็นความทรมานบันเทิงชั้นเยี่ยมอย่างแท้จริง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับความเครียดความกดดันที่ได้รับใน Captain Phillips แล้ว 12 ปีใน
12 Years a Slave นั้นชนะขาดจนทำให้เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่กัปตันฟิลิปโดนจับไปนั้นเปรียบเสมือนการล่องเรือสำราญสุดหรูเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามสำหรับผมแล้ว
12 Years a Slave คือหนังเกรด A ที่ดีมากๆ จน Add เข้า List ก่อนตายควรดูสักครั้งได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น