วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

[Movie] 10 ภาพยนตร์สุดเฟล ประจำปี 2013


หลังจากระบายหนัง 10 เรื่องสุดฟินของปี 2013 ไปแล้วจะไม่มีหนังสุดเฟลกันบ้างก็ยังไงอยู่ จริงๆ แล้วหนังที่ดูแล้วรู้สึกเฟลในปีนี้มีค่อนข้างเยอะ แต่ก็พยายามคัดเท่าที่ไม่ไหวจะเคลียร์ออกมาก่อน ซึ่งก็ยังขอย้ำเหมือนเดิมว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดส่วนตัวล้วนๆ แน่นอนว่ามีหนังที่แย่กว่านี้อีกมากมาย แต่ที่ไม่ติดใน List ก็เพราะอาจจะยังไม่เคยดู หรือเป็นหนังที่ไม่ได้คาดหวังใดๆ ก่อนดูเลยไม่ผิดหวังสักเท่าไร หากใน 10 เรื่องมีหนังที่เป็นที่ชื่นชอบของใครก็ต้องขออภัยก่อนเริ่มจวกมา ณ ที่นี้จ้า [List เรียงตามตัวอักษรไม่ใช่ลำดับความแย่]

1. After Earth

ประเดิมที่เรื่องแรก After Earth หลังที่ผู้คนส่วนมากพยายามเหนี่ยวรั้ง ฉุดกระชากลากถู คอยเตือนไม่ให้ไปดู ก็ยังดันทุรังไม่ยอมฟังความเห็นใดๆ เพราะเชื่อว่าสักวัน M. Night จะคืนฟอร์ม และมีความรู้สึกลึกๆ ว่า วิล สมิธ คงไม่ลดตัวมาเล่นหนังแบบนี้ จนสุดท้ายก็ได้แต่มานั่งเสียใจน้ำตาตกใน เสียดายทั้งเงินและเวลาเป็นอย่างยิ่ง เพราะ After Earth นั้นเป็นหนังที่กลวงจนแทบไม่มีอะไรจับต้องได้ ความสัมพันธ์พ่อ-ลูกก็ดูเวิ่นเว้อจนน่ารำคาญ คาแรคเตอร์จาเดน สมิธ ก็งี่เง่าจนอยากให้พ่อมันรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นมาถีบแม่งให้ตกเขาจนเรื่องจบๆ ไปเสียที

2. G.I. Joe Retaliation

เนื่องจากเป็นติ่ง Gadget เจ๋งๆ และฉากแอคชั่นถล่มกรุงปารีสสุดมันส์ในภาคแรก ก็ทำเอาไม่ลังเลที่จะตีตั๋วไปดูในภาคที่ 2 แต่แล้วความหวังก็ต้องพังทลายเมื่อหนังตัดอุปกรณ์เท่ๆ ในภาคแรกทิ้งไปจนแทบเหี้ยน จนเหลือแต่ฉากแอคชั่นห่วยๆ ซ้ำๆ ของคนไล่ยิงกัน คนไล่ต่อยกันที่ดูมาจนเบื่อสุดๆ แล้ว ส่วนบทก็ก็ห่วยลงจนเดาได้ตั้งแต่ต้นยันจบ ตัวละครก็ช่างจืดชืดไม่มีคาแรคเตอร์เท่ๆ เอาเสียเลย หากจะให้หาจุดที่ดีคงมีเพียงอย่างเดียวซึ่งก็คือฉากแอคชั่นของเหล่านินจาริมหน้าผานั่นเอง

3. Grown Ups 2

สารภาพว่าจริงๆ ก็รู้ก่อนที่จะได้ดูแล้วว่า Grown Ups เป็นหนังตระกูลที่ห่วยถ้าจะต้องดูคนเดียว เพราะในภาคแรกการนั่งดูกับแก๊งเพื่อนเก่าๆ ก็รู้สึกเหมือนได้ระลึกความหลัง ได้หัวเราะแต่ละฉากไปตามๆ กัน ต่างกับภาคนี้ที่ต้องทนนั่งดูคนเดียวจนได้เห็นข้อเสียต่างๆ มากเกินกว่าจะรับได้ นอกจากเนื้อเรื่องจะไร้แก่นสารชนิดที่เรียกว่าไม่มี "บท" ก็เชื่อได้อย่างสนิทใจ อีกทั้งหนังเดินหน้าโคตรไร้ทิศทาง ความตลกก็มีแต่มุกแบบเจ็บตัว มุกอุบาทว์มากมาย จนสุดท้ายดูจนจบเรื่องก็ยังพบว่าหนังนั้นยังคงอยู่จุดเดียวกับตอนต้นเรื่องอยู่เลย



4. Machete Kills

หากกรอบของหนังคือทะเลแล้ว Machete Kills ไม่ได้ออกไปแค่ทะเล แต่เป็นหนังที่ออกไปไกลถึงอวกาศเลยทีเดียว ขนาดทำใจว่าจะต้องเจอกับหนังคัลท์แล้วก็ยังไม่คิดว่าเฮียโรดิเกรซแกจะเล่นกันถึงขนาดนี้ แต่นี่ก็ไม่ว่ากันถ้าเนื้อเรื่องมั่วซั่วแล้วยังสนุก แต่ที่เซ็งก็คือหนังมันดันไม่สนุกด้วยนี่สิ ทั้งการดำเนินเรื่องแบบมั่วสุดๆ วิ่งตะลุยไปเรื่อย ฉากแอคชั่นก็ไม่โดนใจเหมือนภาคก่อน มุกตลกที่ฮาก็หายไปเสียหมด จนสุดท้ายก็เหลือแต่ลูกบ้าเพียวๆ ที่ไม่พอจะทำให้หนังดูเพลินขึ้นมาได้

5. R.I.P.D.

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่หาคำตอบไม่ได้สักทีว่าสร้างมาเพื่ออะไร? เพราะ R.I.P.D. คือการทำซ้ำกับ MIB แทบทุกประการ จะมีสิ่งที่แตกต่างก็แค่จากมนุษย์ต่างดาวเป็นปีศาจแค่นั้นจริงๆ นอกจากความซ้ำซากของหนังและฉากต่างๆ ในเรื่องแล้ว R.I.P.D. ยังสร้างคาแรคเตอร์คู่หูที่ดูน่ารำคาญที่สุดใน 3 โลก บวกตัวร้ายที่กระป๋องกระแป๋งที่ดูยังไงก็ไม่มีอะไรน่าจดจำแม้แต่น้อย จนสุดท้ายดูไปก็ได้แต่วนถามตัวเองด้วยคำถามเดิมว่า มันจะสร้างมาเพื่ออะไร?


6. Scary Movie 5

หนังที่ความสนุกลดลงตามจำนวนภาคต่อ ยิ่งดูก็ยิ่งอนาถว่านี่หรือคือหนังล้อเลียนในตำนานเมื่อในอดีต จากที่เคยผูกเรื่องแบบเนียนๆ กลับกลายเป็นการยัดเยียดตัวละคร และฉากต่างๆ เข้ามาโต้งๆ จากที่เคยฮาก็เล่นเอานั่งกุมขมับแล้วไม่ขำเลยสักมุก ดูไปก็อยากจะลุกไปปิดแต่ก็ไม่อยากแพ้มันเลยนั่งอดทนแข่งกับความห่วยของมันไปจนจบเรื่อง จนสรุปความได้ว่า Scary Movie 5 ไม่ใช่แค่เพียงเป็น 1 ในหนังที่ห่วยที่สุดของปี แต่ยังขอยกให้เป็น 1 ในหนังที่เสียเวลาดูที่สุดในชีวิตด้วยเลย


7. The New Police Story



ก็พอเข้าใจว่าผู้สร้างต้องการหาแนวทางใหม่ๆ ให้กับหนังชุดนี้ เนื่องจากอายุอานามของเฉินหลงที่แก่ขึ้นทุกวันจะให้ไปวิ่งสู้ฟัดสมชื่อมันก็คงทำไม่ได้แล้ว ซึ่งก็ยอมรับในความกล้าที่ยอมเปลี่ยนแนวหนังมาเป็นดราม่า-Whodunit แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเหมือนกับการลองของใหม่โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน จนทำให้สิ่งที่ได้ก็คือความน่าเบื่อตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงเต็ม ทั้งดราม่าแปร่งๆ ที่ดูไม่สุด การเล่าเรื่องที่วกไปวนมา สร้างฉากแอคชั่นขึ้นมาอย่างยัดเยียด แทรกๆ เข้ามาเพื่อให้มีแค่นั้น จนดูๆ ไปก็เหมือนว่าจะมีครบรสแต่ก็เป็นแค่รสอ่อนๆ ที่แทบไม่รู้สึกถึงในทุกๆ ทาง


8. The Purge

ชอบไอเดีย ชอบแนวคิด ของหนังมาตั้งแต่เริ่มโปรโมทกับคืนพิสดารในแต่ละปีที่ปล่อยให้คนออกมาทำผิดกฎหมายได้ แต่เมื่อได้ดูจริงก็ต้องพบว่าแนวคิดที่ว่าดีนั้นกลับมีช่องโหว่ที่รับไม่ได้อยู่มากมาย รวมไปถึงพฤติกรรมตัวละครแต่ละตัวที่โง่บรมจนอยากจะให้ตายไปให้หมดบ้านให้รู้แล้วรู้รอด ดูจบก็รู้สึกเสียดายสภาพพล็อตแนวๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นและอยากให้ลดความ nonsense ลงไป หนังน่าจะดีขึ้นกว่านี้ได้มากเลยทีเดียว

9. Thor 2

หลายคนคงสงสัยว่าหนัง Blockbuster อย่าง Thor มาทำอะไรใน List หนังสุดเฟลแห่งปีเช่นนี้ แต่บอกเลยว่าสำหรับผมแล้ว Thor 2 คือหนังที่น่าผิดหวังที่สุดของค่าย Marvel นับตั้งแต่ Iron man ภาคแรก ซึ่งจริงๆ ก็เริ่มเห็นลางตั้งแต่การแก้บทแก้ฉากอยู่บ่อยครั้งก่อนฉาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ ในภาคนี้ทีมผู้สร้างทำออกได้สดใสบ้องแบ๊วตามสไตล์ Disney มาก โลกจะแตก คนจะตายทุกคนก็หัวเราะกันร่าเริงได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวร้ายก็แสนจะกระจอกงอกง่อยจนไม่รู้จะเสียเวลาปูเรื่องให้ทำไมตั้งนาน แต่มองซ้ายมองขวาระหว่างดูก็เห็นคนเขาสนุกกัน จนรู้สึกได้เลยว่าหนังคงไม่ได้ทำมาเพื่อเราจริงๆ


10. White House Down

หลังจากที่ฟิน~ กับหนังถล่มทำเนียบขาวเมื่อต้นปีอย่าง Olympus has fallen ไปก็อดไม่ได้ที่จะไปหาหนังแนวเดียวกันอย่าง White House Down มาเปรียบเทียบ ซึงเมื่อนำแต่ละส่วนของหนังมาชนกันชนิดด้านต่อด้าน ทั้งแอคชั่น ความดุดัน ความมันส์ ความสนุก เนื้อเรื่อง การแสดง ฉากตระการตา ก็จะเห็นได้ว่า White House Down นั้นแพ้ลุ่ยในทุกๆ ด้าน เพราะบทหนังก็ช่างโบราณอย่างกับออกมาจากยุค 80s ฉากแอคชั่นก็ซ้ำซากจนไม่มีอะไรน่าตื่นตา ตัวละครบางตัวก็โง่เกินกว่าจะให้อภัย จนสุดท้ายก็ได้แต่ดูไปหาวไปจนจบเรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น