ในยุคที่ Pixar กำลังครองตลาด Animation อยู่นั้น ก็คงมีแต่ค่าย Dreamwork Animation ที่ออกมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคอ Animation อีกค่ายหนึ่งที่เน้นความบันเทิงเป็นหลักมากกว่าเน้นความละเมียดและแฝงปรัชญาอย่างของ Pixar ซึ่งที่ผ่านมาก็นับว่าค่าย Dreamwork ที่ว่านี้ก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด ทั้งงานด้านภาพและบทที่เห็นความตั้งใจในการทำมากขึ้นๆ อยู่ในทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา อย่างผลงานเด่นๆ ทั้งหลายก็ได้แก่ Kung Fu Panda, Madagascar หรือHow to train your dragon ก็เป็นแฟรนไชส์อันทรงคุณค่าที่ได้รับคำชมพร้อมกับรางวัลกับบ้านมากมายในการเดินสายประกวด และรายได้เป็นกอบเป็นกำ จึงไม่แปลกใจถ้าหากจะนับว่า Turbo คืออนิเมชั่นอีกเรื่องที่น่าจะบตามองของปีนี้เลยก็ว่าได้
Turbo นั้นพยายามเล่าเรื่องของ ธีโอ หอยทากตัวหนึ่งที่มีความคิดที่แตกต่างจากหอยทากทั่วๆ ไปตรงที่เขาชื่นชอบความเร็ว และอยากที่ลงสนามแข่งรถทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นหอยทาก จนกระทั่งวันหนึ่งโชคชะตาก็ได้มอบพลังพิเศษที่ทำให้เขาวิ่งได้เร็วดั่งรถแข่งตามที่เคยฝันเอาไว้ ซึ่งนับว่าเป็นความเก่งของคนทำอนิเมชั่นเรื่องนี้มากที่ทำให้สัตว์ที่น่าขยะแขยงหยึบหยึยอย่างหอยทากออกมาให้กลายเป็นสิ่งมีที่น่ารักและน่าเอาใจช่วยได้ขนาดนี้ พร้อมทั้งยังเล่นกับขั้วตรงข้ามอีกทั้งๆ ที่หอยทากเป็นสัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ช้ามาก แต่กลับได้รับพลังความเร็ว ก็เลยทำให้เนื้อเรื่องสูตรเดิมๆ ในฉบับของ Underdog ตามความฝันเช่นนี้ดูสดใหม่ขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้วขณะดูหนังเรื่องนี้ก็แอบอดคิดถึงอนิเมชั่นเจ้าใหญ่ของ Pixar อย่าง Cars ผสมกับ Ratatouille ไปไม่น้อย เพราะหนังก็ว่าด้วยการแข่งรถในลักษณะมวยรองและเมืองร้างที่ถูกลืมคล้ายกับใน Cars และเป็นเรื่องราวของ Underdog ที่มีความฝันของตัวเองที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เหมือนอย่างเจ้าหนูพ่อครัวใน Ratatouille ซึ่งสิ่งที่หนังทั้งสองเรื่องนี้เหมือนจะเล่นอยู่ที่ประเด็นเดียวกันนั่นก็คือ "ใครๆ ก็มีสิทธิที่จะฝันและทำให้มันเป็นจริงได้ทั้งนั้น" และด้วยความเป็นมวยรองนี้ล่ะที่ทำให้หนังดูสนุก ลุ้น และน่าติดตามอยากเอาใจช่วยตัวละครที่มีความฝันอย่างหอยทากที่อยากแข่งชนะที่ 1 และเจ้าของร้านทาโก้ที่อยากพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณค่าให้ทำสำเร็จให้ได้
โดยรวมแล้วนั้น Turbo ถือเป็นอนิเมชั่นที่ภาพสวย ดนตรีชวนสนุก ฉากไคลแม๊กซ์ที่มันส์และลุ้นสะใจมากๆ อีกเรื่องหนึ่งของปี แม้ว่าเนื้อเรื่องนั้นจะออกตัวฉากไปนิดไปกับการปูเรื่องความฝัน และใช้วิธีเล่าเรื่องแบบเดิมๆ ไปสักหน่อย แต่รับรองว่าเมื่อคุณได้รับชมอนิเมชั่นเรื่องนี้แล้วคุณน่าจะได้รับกำลังใจในการทำตามฝันในชีวิต และมีไฟที่จะลุกขึ้นอีกสักครั้งเหมือนอย่างเจ้า Turbo ตัวนี้แน่นอนครับ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น