วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

[Movie] รีวิว Evil Dead --> (* * * -)



รีวิว Evil Dead
หลังจาก The Cabin in the wood ได้มาเปิดโลกหนังแนว Slasher ขึ้นมาใหม่ มุมมองเดิมๆ ตอนดูหนังแนวนี้ก็ต่างจากเดิมไปในทันที จากที่เมื่อก่อนดูด้วยความน่าเบื่อกลับกลายเป็นความตลก แล้วก็ดูไปขำไปพร้อมทั้งคิดถึงฉากต่างๆ ใน The Cabin in the wood ขึ้นมาซ้ำๆ จนกลายเป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่รู้ตัว จนเมื่อ Evil Dead ฉบับใหม่เข้าโรงนั้น ก็เกิดอารมณ์อยากลองเสพบรรยากาศหนังแนว Slasher แบบคลาสสิคขึ้นมาซะงั้น จึงลองไปชมดูว่าจะโหด มันส์ ฮา ได้เท่าเวอร์ชั่นก่อนหรือเปล่า แต่แล้วความคิดที่จะฮากลับต้องหยุดชะงักเมื่อต้องเจอกับความโหดแท้ของหนังที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง

โดย Evil Dead ในเวอร์ชั่น Remake นี้เนื้อเรื่องก็คล้ายๆ ของเก่า ที่มีวัยรุ่น 5 คนกับกระท่อมกลางป่า เพียงแต่ในครั้งนี้เพิ่มปมเรื่องของยาเสพติดกับวัยรุ่น บวกกับปัญหาระหว่างพี่น้องเข้ามาด้วย ส่วนที่เหลือก็เหมือนเดิมแทบทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่งถ้าหากจะให้ตัดสินว่าชอบเวอร์ชั่นไหนมากกว่าคงตอบได้ยาก เพราะถึงแม้โครงเรื่องจะคล้ายกัน แต่ความรู้สึกที่ได้รับกลับเหมือนดูหนังคนละม้วน ในเวอร์ชั่นนี้ได้เอามุกตลกร้าย และความเบาสมองออกไปทั้งหมด ทำให้จากที่เคยโหด มันส์ ฮา จึงเหลือแค่โหด และมันส์เท่านั้น แถมความโหดในครั้งนี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะแต่ละฉากที่ผีออกมานั้นก็ทำให้คนดูเสียว ซี๊ด ซ๊าด ได้อยู่เกือบตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งสำหรับผมแล้วนี่อาจจะเป็นหนังที่โหดที่สุดในชีวิตตั้งแต่ดูมาเลยก็ว่าได้

สิ่งที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่งที่มีเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือ ทั้งๆ ที่หนังมีความซ้ำซาก และเดินน่าตามสูตรจนเดาได้เทียบทุกกระเบียดนิ้ว แต่กลับรู้สึกว่าเป็นความคลาสสิคที่ดูสนุกอย่างแปลกๆ ซึ่งหลังจากมานั่งคิดแล้วเป็นเพราะหนังช่วงหลายปีที่มาไม่มีหนังโหดได้ถึงขีดสุด หรือมีแต่ที่โหดแบบกั๊กๆ เท่านั้น จนเมื่อมาเจอ Evil Dead จึงได้ตอบสนองต่อมถึงขีดสุด แต่ว่าหนังจะทำออกมาได้สนุกสักแค่ไหน แต่สำหรับหนังแนวนี้ก็ต้องมีข้อเสียแบบที่เลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือระดับสติปัญญาของตัวละครมักจะอยู่ในระดับต่ำ และทำอะไรที่ไร้เหตุผลอยู่เสมอ เหมือนอย่างตัวละครหนึ่งที่พยายามจะอ่านข้อความในหนังสือให้ได้ ทั้งๆ ที่หนังสือนรกเล่มนี้ก็ถูกเจอในสภาพที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง แถมยังถูกมัดอย่างดีด้วยลวดแข็งๆ แถมยังมีคำเตือนมากมายเพื่อไม่ให้เปิดออกมา แถมยังพยายามจะหามนต์คาถาออกมาทั้งๆ ที่ถูกลบไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้คือความพยายามที่ไม่มีแรงจูงใจใดๆ ทั้งสิ้น หรือ บางตัวละครที่พยายามพาตัวเองเข้าไปสู่จุดที่ไม่ควรจะเกิด เป็นต้น เสียดายที่ส่วนเหล่านี้มีมากเสียจนมากข้ามไปไม่ได้ ทำให้โดยรวมๆ หนังอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าดูสนุกถ้าไม่คิดมาก ซึ่งน่าจะถูกใจสาวกฮาร์ดคอร์หลายๆ คนไปไม่น้อยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น