 |
รีวิว Survivor |
มันคือความดันทุรังอย่างหนึ่งที่ทำให้ได้รับชมหนังเรื่องนี้ แม้ว่าเมื่อแรกเห็นตัวอย่างก็เกิดความอคติอย่างรุนแรงถึงความซ้ำซากของตัวบทและพล็อตสไตล์ The Fugitive ที่ลำพังตัวอย่างแค่ 2-3 นาทีก็สามารถเข้าใจเรื่องราวได้เป็นฉากๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งตัวอย่างยังแสดงจุดหักมุม (ที่ก็ไม่ได้เหนือความคาดเดาแม้แต่น้อย) ออกมากันโต้งๆ จนไม่เหลืออะไรที่เป็นจุดขายนี้ให้น่าติดตามต่อไป
 |
รีวิว Survivor - pic1 |
เรื่องราวใน
Survivor ก็ไม่มีอะไรมากนัก ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มจาก เคท เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของสหรัฐที่ถูกส่งมาประจำที่อังกฤษ ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของชายคนหนึ่งที่เข้ามาขอวีซ่า จึงพยายามรายงานไปถึงเบื้องบนโดยหารู้ไม่ว่าในองค์กรนั้นก็มีหนอนบ่อนไส้ของกลุ่มก่อการร้าย ที่หวังจะฆ่าเธอปิดปากจากความสงสัยของเธอ
 |
รีวิว Survivor - pic2 |
จริงหนังสไตล์นี้ก็ถึงแม้พล็อตจะซ้ำซากแต่ก็ยังสามารถทำออกมาให้สนุกได้ เหมือนอย่าง Jack Ryan ภาคล่าสุดเมื่อปีก่อนที่เล่นกับสูตรสายลับจนแทบไม่มีอะไรใหม่ แต่ด้วยจังหวะการดำเนินเรื่องและเล่าเรื่องที่สนุกก็พอกลบข้อผิดพลาดออกไปได้ ต่างกับ
Survivor ที่เสมือนหนังที่ผู้กำกับเพิ่งหัดทำ และพยายามจะทำให้มันดูฉลาดแต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เพราะการสร้างตัวละครที่ฉลาดนั้นควรที่จะอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ใช่ฉลาดเว่อร์และเก่งเว่อร์อยู่ตลอดเวลา
 |
รีวิว Survivor - pic3 |
ยกตัวอย่างเช่น การไล่จับ ไล่ล่า ที่ไม่ว่านางเอกจะอยู่ที่ใด ทำอะไร ก็ไม่สามารถหลุดพ้นการติดตามตัวร้ายได้ทุกที แต่ในขณะที่ตัวเอก และตัวร้ายแข่งกันฉลาด ชิงไหวชิงพริบ เหล่าตัวละครประกอบต่างกระจอกโง่ ง่อยอย่างไม่น่าให้อภัยแม้ว่าจะอยู่ในหน่วยงานเดียวกันก็ตาม อีกทั้งงานด้านแอคชั่นก็ดูจืดสนิทไม่มีฉากที่ดูแล้วเกิดความลุ้นระทึกสักเท่าไร ส่งผลให้
Survivor น่าจะเป็นเพียงหนังแอคชั่นที่ดูฆ่าเวลาแก้เบื่อ และนับเป็นผลงานที่แย่ที่สุดของผู้กำกับ เจมส์ แมคทีค ที่เคยมีผลงานสุดเจ๋งอย่าง V for Vendetta มาเลย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น