 |
รีวิว Insurgent
|
หากจะบอกว่ารีวิวนี้แฝงไปด้วยความลำเอียงก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากส่วนตัวเองก็มีอาการอคติไปกับซีรี่ย์ชุดนี้มาตั้งแต่ตัวนิยายแล้ว เพราะถ้านำมันไปเทียบเคียงกับนิยายแนว Dystopia (สภาพสังคมสมมุติที่ตรงข้ามกับแดนในฝันที่ไม่มีความขัดแย้งอย่าง Utopia) ก่อนหน้าอย่าง The Hunger Games แล้วก็นับว่าเทียบชั้นไม่ได้ในแง่ด้านการเมืองและความเข้มข้นในการดำเนินเรื่องเลยแม้แต่น้อย หรือหากจะนำไปเทียบกับนิยายรุ่นน้องอย่างชุด The Maze Runner ก็จะพบว่าไม่มีส่วนของปริศนาใดที่น่าสนใจและน่าติดตาม ถ้าเช่นนั้นแล้วหนังสือชุด Divergent จะเหลืออะไรดีล่ะ? ถ้าถามสาวๆ กลุ่มเป้าหมายก็คงจะตอบว่าเรื่องราวความรักโรแมนติกกับชายในฝันอย่างโฟร์ กับฉากชวนจิ้นที่ปรากฎขึ้นมากมายตลอดการดำเนินเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เผอิญว่าเราดันไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ว่าแม้แต่น้อย เลยคิดว่าหากจะไม่ชอบที่ตัวหนังแล้วส่วนนึงอาจจะต้องไปโทษตัวบทดั้งเดิมตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่คุณภาพของหนังเป็นอย่างเดียว
 |
รีวิว Insurgent - pic1
|
ซึ่งสำหรับใน
Insurgent ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ 2 ของชุดที่ดำเนินเรื่องต่อเนื่องมาจากภาคแรกหลังจากที่กลุ่มที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ภาคแรกที่เผ่าดอนท์เลสที่ถูกควบคุมด้วยซิมูเลชั่นออกมาโจมตีล้างเผ่าแอ๊บแกเนชั่น เพื่อค้นหาแท่งข้อมูลที่เผ่าเออรูไดร์เชื่อว่าเป็นสิ่งที่กุมความลับ กลุ่มที่รอดชีวิตเลยหวังหนีมาพึ่งมาเผ่าสันติอย่างอมิตี แต่ทว่าพวกเขาก็ยังโดนไล่ล่าอย่างไม่ลดละ จนสุดท้ายก็ได้ไปขอความร่วมมือจากกลุ่มไร้เผ่าในการต่อสู้กับเออรูไดร์ที่ร่วมมือกับดอนท์เลสบางส่วนไปแล้ว
 |
| รีวิว Insurgent - pic2 |
หากมองในแง่ความเป็นหนังสำหรับคนที่ดูต่อมาจากภาคที่แล้วโดยที่ไม่ได้อ่านนิยายมาก็ต้องถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค โดยเฉพาะด้านวิชวลที่ออกมาสวยงาม แถมยังมีการดำเนินเรื่องที่ไหลลื่น แบบเปิดฉากมาก็ไล่ยิงกันเลย แล้วก็มีเหตุการณ์ที่น่าติดตามแทรกเข้ามาเรื่อยๆ แต่ในแง่ของการดัดแปลงมาจากนิยายแล้วก็เรียกได้ว่าพังยับแบบไม่ต้องสงสัย จริงอยู่ที่หนังอาจมีข้อดีในการตัดเรื่องพ่อแง่แม่งอนของคู่พระ-นางที่โคตรจะน่ารำคาญและกินเวลาไปเกินครึ่งเรื่องออกไปให้เหลือแต่สาระโครงหลักๆ จริงๆ แต่ทว่านอกจากในส่วนนั้นแล้ว
Insurgent ฉบับหนังดันตัดส่วนสำคัญออกมากเกินไปจนแทบรับไม่ได้
 |
| รีวิว Insurgent - pic3 |
เรียกได้ว่าหนังยึดมาแค่โครงเรื่องของ
Insurgent มาแค่เพียง 30% จริงๆ ในส่วนที่เหลือ 70% ที่เป็นรายละเอียดต่างๆ นั้นก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง ดัดแปลงจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ตัวละครหลายตัวที่สำคัญในหนังสือก็ถูกลดสถานะไปเป็นเพียงแค่ตัวประกอบไปซะหมดจนไม่เหลือพื้นที่ให้ปูเรื่องเลย รวมถึงความสัมพันธ์ของแต่ละครก็แทบไม่ได้ถูกนำมาแสดงออกมาให้ชัดนัก แม้กระทั่งจุดขายอย่างความดราม่า โรแมนซ์ในนิยายก็ยังแทบไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีการเพิ่มหลายต่อหลายฉากที่ไม่มีในหนังสือ ซึ่งคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นการสนองความต้องการตัวเองในการโชว์วิชวลเทพ จนสุดท้ายหนังเลยพังพินาศไม่เหลือจุดพีค ตัวละครตายหองไปเราก็แทบไม่สนใจเพราะเราไม่รู้จักมัน ปริศนาที่เคยน่าลุ้นตอนอ่านหนังสือ ก็ไหลลื่นจนแทบไม่มีอะไรน่าสนใจอีกต่อไป เหลือแต่ความบันเทิงเพลิดเพลินที่ดูแล้วจบไปไม่มีอะไรให้คิดมากอีกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น