 |
| รีวิว Chappie |
Neil Blomkamp ถือเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับอีกคนที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามกับหนังไซไฟทุนต่ำ (แต่คุณภาพสูงมาก ทั้งตัวพล็อตที่เจ๋งโดนใจ แถมยังมี CG ที่งดงามจนน่าแปลกใจว่าใช้ทุนไปแค่นี้จริงๆ หรอ) ที่มีชื่อว่า District 9 จนเป็นที่น่าจับตามองในเรื่องต่อๆ ไปว่าเขาจะเล่นกับประเด็นอะไรในหนังไซไฟของเขาอีก แต่ก็น่าเสียดายที่ Elysium ที่เป็นผลงานถัดมาของเขานั้นจะออกแนวสะดุดไปบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวหนังก็ดูสนุกและมีประเด็นน่าสนใจอยู่ แต่ผลงานก่อนหน้ากลับตั้งหลักไมล์เอาไว้สูงมากจนยากที่หนังถัดไปจะทำได้ถึงขนาดนั้น ซึ่งเจ้าผลงานล่าสุดอย่าง Chappie ก็เปรียบเสมือนการกลับมาแก้มืออีกครั้งกับการทวงตำแหน่งของเจ้าพ่อหนังไซไฟรุ่นใหม่แห่งยุคนี้
 |
| รีวิว Chappie -pic1 |
ตัวอย่างและเรื่องย่อของ Chappie นั้นช่างดูคุ้นเคยกับหนังหุ่นยนต์หลายๆ เรื่องที่เราได้เคยสัมผัสกันมา และดูท่าจะออกไปเป็นแนวหนังครอบครัวเข้าไปอีกเมื่อพบว่าหนังมี Huge Jackman กับหุ่นยนต์ที่ทำให้อดคิดไปถึงหนังอย่าง Real Steels ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มีหรือที่ผู้กำกับอย่าง Blomkamp จะทำหนังไซไฟธรรมดาๆ กับเขา ถึงแม้ภายนอกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Font ชื่อเรื่องที่หน่อมแน้มจะทำให้รู้สึกว่าเป็นหนังหุ่นยนต์สำหรับเด็ก แต่แท้จริงแล้วนั่นก็เป็นเพียงสีสันที่เคลือบเปลือกนอกไว้เท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วนั้น Chappie กลับเป็นหนังผู้ใหญ่ที่เล่นกับประเด็นสังคม และศีลธรรมมากมาย อีกทั้งยังรวมไปถึงความรุนแรง คำหยาบ และยาเสพติดมากมายที่แทรกอยู่ในตลอดทั้งเรื่อง จนได้เรท R มาครองด้วยซ้ำไป
 |
| รีวิว Chappie -pic2 |
Chappie ถือเป็นหนังหุ่นยนต์ที่ดูแปลกกว่าหนังหุ่นยนต์ในช่วงที่ผ่านๆ มา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหนังเลือกจะฉีกไปเล่นประเด็นอื่นนอกจากเรื่องของศึลธรรมในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่คิดได้เอง มาเป็นการเปรียบเทียบภาพของหุ่นยนต์ให้เป็นเด็กที่เปรียบเสมือนผ้าขาว ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์นั้นจะใส่อะไรลงไป เด็กก็จะเติบโตมาในสภาพแบบนั้น ซึ่งหาก Chappie ตกไปอยู่ในมือคนดีก็จะสร้างอะไรดีๆ ให้กับสังคมได้ แต่ในทางกลับกันหากตกไปอยู่ในมือคนร้ายหรือใช้ในทางที่ผิดก็กลายเป็นเครื่องมือก่อความเสียหายได้มากเช่นกัน
 |
| รีวิว Chappie -pic3 |
โดยรวมแล้วถือว่า Chappie เป็นหนังที่มีความครบรสเป็นอย่างยิ่งทั้งได้ด้านแอคชั่น ดราม่า และตลกที่ปนเปกันอย่างกลมกล่อม แม้จะมีหลายฉากที่ดูเป็นการ์ตูนและหลุดจากโลกความเป็นจริงไปสักหน่อยก็ถือว่าพอมองข้ามกันไปได้ เพราะยังอีกหลายข้อดีเยอะแยะมากมาย ตัวหุ่นยนต์ Chappie เองก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ดูมีชีวิตจนน่าเชื่อ และผูกพันกับคนดูได้ไม่ยาก หากใครกำลังมองหาหนังไซไฟบันเทิงดีๆ สักเรื่องที่ดูจบแล้วก็ยังมีอะไรให้มาขบคิดได้ต่อแล้ว Chappie ก็น่าจะตอบโจทย์ได้สบายเลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น