 |
| รีวิว Kingsman : The Secret Service |
Matthew Vaughn ถือเป็นผู้กำกับอีกคนที่เรียกได้ว่ามีความเป็นฮิปสเตอร์ในการทำหนังสูงมากอีกคนหนึ่ง ตัวหนังที่ผ่านมาของเขามักที่จะมีโทนและลายเซ็นค่อนข้างชัดเจน มีความเอาแต่ใจเหมือนจะเจาะไปยังคนดูเฉพาะกลุ่มแต่ก็ยังคงเข้าถึงตลาดในแนวกว้างในอีกเช่นกัน ซึ่งถือเป็นสไตล์การทำหนังที่เรียกได้ว่าน้อยคนนักจะทำตามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง
Kingsman : The Secret Service ที่ถึงขนาดยอมทิ้งโอกาสในการกำกับ X-men : The Day of Future Past เพื่อมาทำหนังแนวสายลับที่ตัวเองใฝ่ฝันมาตลอด ซึ่งก็แน่นอนว่าระดับความสนุกของ
Kingsman ของแต่ละคนนั้นอาจขึ้นอยู่กับความชื่นชอบหนังแนวสายลับและประสบการณ์ที่ดูมาว่าหลากหลายมากน้อยเพียงใด
 |
| รีวิว Kingsman : The Secret Service - pic1 |
ซึ่ง
Kingsman ก็เล่าถึงองค์กรสายลับอิสระ
Kingsman ที่ทำหน้าที่ช่วยโลกมาโดยตลอดจนกระทั่งวันหนึ่งที่สายลับหลักของทีมเกิดเสียชีวิตไปทำให้องค์กรต้องคัดสรรบุคลากรมาเพิ่ม ด้วยความรู้สึกผิดของ กาลาฮัด สายลับที่รอดชีวิตจากการเสียสละของพ่อ เอ๊กซี่ วัยรุ่นที่มีความสามารถแต่กลับใช้ชีวิตเหลวแหลกไปวันๆ บวกกับเห็นแววทักษะสายลับในตัว กาลฮัดจึงตัดสินใจเลือก เอ๊กซี่ เข้าสู่โปรแกรมฝึกการเป็นสายลับ Kingmans อย่างเต็มตัว
 |
| รีวิว Kingsman : The Secret Service - pic2 |
ก็เรียกได้ว่า
Kingmans น่าจะเป็นหนังที่ออกมาเพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบหนังแนวสายลับเป็นพิเศษ เพราะหนังก็มีการล้อขนบความเป็นหนังสายลับได้อย่างเมามันส์ หลายต่อหลายฉากคือสิ่งที่เราคุ้นเคยและเคยผ่านตามาก่อนถ้าหากคุณเป็นคนที่ดูหนังสายลับมาเยอะพอตัว รวมถึงมุกตลกเกี่ยวกับสายลับที่เล่นเอาขำจนต้องปรบมือให้หลายต่อหลายฉาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า
Kingsman จะไม่เหมาะกับคนดูทั่วไปสักทีเดียว เพราะจริงๆ แล้วหนังก็ยังเล่าเรื่องได้สนุก มีจังหวะการเดินเรื่องที่ดี ฉากตื่นตาก็เข้ามาถูกจังหวะ จนทำให้ตลอด 2 ชั่วโมงไม่น่าเบื่อเลยแต่อย่างใด
 |
| รีวิว Kingsman : The Secret Service - pic3 |
นอกจากความดีงามที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว หนังยังมีฉากแอคชั่นสวยๆ อันประกอบมาจาก คิวบู๊ที่ถูกคิดและสร้างสรรค์ออกมาอย่างดี มีการใช้อาวุธและอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างคุ้มค่าและมีสไตล์ที่น่าสนใจ รวมไปถึงความรุนแรงอย่างเต็มพิกัด ประกอบกับคาแรคเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้เท่ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Colin Firth ที่พลิกบทบาทกันสุดๆ จากปกติที่เป็นสุภาพบุรษมาดนิ่ม แต่พอออกลวดลายบู๊ ก็ถือว่าป๋าแกเอาอยู่เลย) จนเมื่อทุกอย่างมาประกอบกันก็เลยเกิดเป็นฉากแอคชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก แต่น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ส่วนที่ด้อยลงไปถนัดตากลับเป็นประเด็นของหนังที่แท้จริงแล้วมีความน่าสนใจ ทั้งเรื่องการเมือง แนวคิดของวายร้าย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม Kingsman ก็เปรียบเสมือลูกอมรสชาติดีที่สีนสันฉูดฉาดทั้งภายนอก แถมพอแตกถึงข้างในก็ยังมีทีเด็ดเปรี้ยวได้อีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น