 |
| รีวิว Into the Woods |
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าตัวผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบหนังแนว Musical สักเท่าไร เพราะการที่ได้เห็นผู้คนใช้บทเพลงในการสื่อสารกันแทนบทพูดธรรมดาบวกกับความโอเวอร์แอคติ้งนั้น ทำให้ตัวหนังหลุดออกมาจากความเป็นจริงมากแม้ว่าหนังเรื่องนั้นจะมีโทนที่เคร่งขรึมและเคร่งเครียดอยู่ตาม (อย่างที่รู้สึกกับ Les Miserable เมื่อปีก่อน) และยิ่งเมื่อผสมกับเรื่องราวของความ Disney แล้วก็ยิ่งมอมเมาให้เราหลุดออกไปในโลกของจินตนาการได้ง่ายขึ้น ทำให้ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าภาพยนตร์แขนงนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะถูกนำมาเล่าในรูปแบบละครเวทีเสียมากกว่า แต่เมื่อได้รับชม
Into the Woods แล้วก็ยอมรับเลยว่าทัศนคติที่ว่าก็เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว
 |
| รีวิว Into the Woods - pic1 |
Into the Woods ถูกสร้างมาจากละครเวทีบรอดเวย์เรื่องดังในชื่อเดียวกัน ที่มีรูปแบบในการยำนิทานของพี่น้องกริมม์โดยมีคู่สามี ภรรยา ที่ขายขนมปังมาเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ในการตามหาของวิเศษทั้ง 4 อย่าง นั่นก็คือ วัวที่ขาวราวกับน้ำนม รองเท้าที่บริสุทธิ์เหมือนทอง เส้นผมที่เหลืองอร่ามราวข้าวโพด และผ้าคลุมที่แดงดั่งเลือด เพื่อมาแก้คำสาปของแม่มดให้พวกเขาสามารถกลับมามีลูกด้วยกันได้อีกครั้ง ซึ่งของวิเศษทั้ง 4 ที่ว่าก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะก็ต่างอยู่ในเรื่องราวที่เราๆ คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วทั้งเรื่องขอ แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ซินเดอเรลล่า ราพันเซล และหนูน้อยหมวกแดง
 |
| รีวิว Into the Woods - pic2 |
ด้วยความที่ไม่เคยดู
Into the Woods ในเวอร์ชั่นต้นฉบับซึ่งเป็นบรอดเวย์จึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างไรบ้าง แต่ด้วยโทนเรื่องราวของหนัง (หรือแม้กระทั่ง Logo ของ Disney ในฉากแรก ที่ปราสาทดูมืดหม่นปราศจากการยิงพลุเหมือนเรื่องอื่นๆ) นั้นก็พอที่จะบอกได้ว่า Into the Woods ตัวดั้งเดิมนั้นน่าจะมีความมืดหม่น มีการเสียดสีนิทาน และดูไม่ค่อยเหมาะกับเด็กสักเท่าไรอยู่พอสมควรเลย แต่เมื่อนำมาอยู่ภายใต้ชายคา Disney แล้วนั้น ทุกอย่างก็ดูซอฟท์ลงไปมากและแทนที่ด้วยมุกตลกสุดสร้างสรรค์ในการจิกกัดขนบธรรมเนียมเทพนิยายเจ้าหญฺิงเจ้าชายของตัวเองได้อย่างสนุกสนานสุดๆ อีกทั้ง Disney ยังคงความเป็นละครเวทีเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งฉากเปิดตัวของตัวละคร ทั้งการเดินเข้า-ออกในฉากก็มีลักษณะที่ไม่ต่างกับการเข้า-ออกหลังเวทีเลย
 |
| รีวิว Into the Woods - pic3 |
ด้วยคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครที่เราคุ้นเคยค่อนข้างชัดเจน ทำให้แต่ละตัวก็มีมุกตลกและมีมุมของตัวเองที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงต้องยกเครดิตให้กับทีมนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี รวมถึงเสียงร้อง (ที่ฟังดูเหมือนจะไปแต่งเอาห้องอัดซะเยอะ) ที่ดูมีพลังและเพลิดเพลินไปกับโทนหนังเป็นอย่างมาก นอกจากนี้
Into the Woods ยังมีการเดินเรื่องที่สนุกกระชับและมีความสดใหม่อยู่พอตัวกับการหยิบเอาเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆ ของแต่ละตัวละครมาเล่าและพลิกนิดกลับด้านหน่อย จนทำให้แม้ว่าจะไม่ชอบหนังแนว Musical มาก่อนก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับหนังได้ไม่ยาก เสียดายก็แต่ช่วงองก์สุดท้ายของหนังที่เปลี่ยนโทนกันจนปรับอารมณ์ไม่ทัน แถมยังดราม่าดูยืดเยื้อจนเกินไป เลยดูเป็นส่วนเกินที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น