 |
| รีวิว The Babadook |
คงเป็นเรื่องยากที่จะจัดว่า
The Babadook นั้นจัดอยู่ในหนังหมวดไหน เพราะเชื่อว่าแต่ละคนที่เข้าไปชมนั้นอาจได้รับบางอย่างที่แตกต่างกันหลังออกจากโรง หลายคนอาจมองว่า
The Babadook เป็นหนังดราม่าเข้มข้นที่ว่าด้วยการเลี้ยงลูก หลายคนอาจมองว่า
The Babadook เป็นหนังจิตวิทยาที่พาไปสำรวจจิตใจที่บอบสลายของจากการสูญเสียคนรัก และหลายคนก็อาจมองได้ว่า
The Babadook เป็นหนังสยองขวัญเกี่ยวกับปีศาจตามชื่อเรื่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่แต่ละคนออกมาจะพูดถึงหนังในคนละมุมมองกัน โดยอาจมีทั้งชอบแนวนี้อยู่แล้วและกลุ่มที่ด่าปนๆ กันไปเมื่อพบว่าหนังออกมาไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิด
 |
| รีวิว The Babadook - pic1 |
ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไปเล่ารายละเอียดสักนิดก่อนว่า
The Babadook เป็นผลงานกำกับและเขียนบทของ Jennifer Kent (รับรองอนาคตคงได้ยินชื่อนี้อีกบ่อยแน่)โดยดัดแปลงมาจากหนังสั้นของเธอเอง ซึ่งก่อนจะมาเป็นหนังใหญ่ก็เริ่มหาทุนจากโครงการ Kickstarter ก่อนที่จะเดินสายฉายตามงานประกวดอย่าง Sundance ซึ่งก็ได้รับคำชมเป็นอย่างดีแม้ว่าจะมีต้นทุนที่ไม่สูงนัก ซึ่งเนื้อเรื่องใน
The Babadook จากที่ฟังมาก็คล้ายต้นฉบับแม้กระทั่งตอนจบ(ส่วนตัวยังไม่ได้ดูที่เป็นหนังสั้นมาก่อน แต่เห็นคนบอกกันว่าถ้าจะไปดูหนังใหญ่ก็อย่าเพิ่งดู ไม่งั้นจะเป็นการสปอย)
 |
| รีวิว The Babadook - pic2 |
โดยเรื่องราวใน
The Babadook ก็มีอยู่ว่า หลังจากผ่านเหตุการณ์ในการสูญเสียสามีไปกว่า 6 ปีจากอุบัติเหตุทางรถระหว่างทางที่ อมิเลีย กำลังเดินทางไปคลอดลูก ทำให้ตลอดเวลาที่เธอได้เลี้ยงดู ซามูแอล ลูกของเธอนั้น ไม่ได้มอบความรักและความใส่ใจในตัวลูกอย่างที่แม่คนอื่นเป็นกัน เนื่องจากเธอคิดอยู่เสมอว่า ซามูแอล นั้นคือต้นเหตุของการของสามีของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้พบหนังปริศนาที่ชื่อว่า
Babadook จนเผลอไปเรียกปีศาจร้ายออกมา ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นก็ลองไปติดตามกันดูครับ
 |
| รีวิว The Babadook - pic3 |
ซึ่งก็อย่างที่ได้กล่าวไปในย่อหน้าข้างต้นว่า
The Babadook นั้นอาจตีความได้หลายอย่างตามที่แต่ละคนจะคิด แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า
The Babadook เป็นหนังจิตวิทยาแบบเต็มขั้นที่พาคนดูไปสำรวจมนุษย์ที่จิตใจแหลกสลายไปกับการสูญเสีย กับวิธีการรับมือกับสภาพอันเลวร้ายเหล่านั้น หนังเล่าเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีหลายฉากที่เปิดให้คนดูได้ตีความไปต่างๆ นานา ซึ่งหากสังเกตกันดีๆ ก็จะเข้าใจถึงสภาพจิตใจของตัวละครกันได้ไม่ยากนัก และถ้าเข้าใจจิตใจของตัวละครแล้วที่ตามมาก็คือเราจะสามารถเข้าใจสิ่งที่หนังจะสื่อออกมาได้ด้วย
 |
| รีวิว The Babadook - pic4 |
ทั้งนี้ต้องชมฝีมือการกำกับมากที่เล่นกับคนดูได้อย่างสนุก แม้ว่าจะไม่ได้ออกมาในโทนสยองขวัญหรือมีฉากตุ้งแช่ให้ได้ตกใจเหมือนดั่งหนังผีทั่วๆ ไป แต่หนังกลับเล่นกับสภาพจิตใจตัวละครได้พีคถึงขีดสุด เครียดสุด และจิตตกได้สุดๆ ซึ่งก็ต้องชมนักแสดงทั้งสองเป็นอย่างดีที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้สุดติ่งกระดิ่งแมวจนทำให้หลายฉากแอบนั่งขนลุกอยู่เบาๆ ไปกับพลังการแสดงอันเหนือชั้น จนผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดูดีเท่าที่หนังทุนต่ำเรื่องหนึ่งจะทำได้ (ถ้าไม่นับการปรากฏตัวของ
Babadook นะ เพราะดูกะโหลกกะลามาก) จึงขอสรุปเลยละกันว่า
The Babadook นั้นอาจไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับทุกคนสักเท่าไร เพราะหนังไม่ได้ขายความเป็นหนังผีอย่างที่ได้โปรโมทไว้ และยังต้องอาศัยการตีความอยู่พอสมควรไม่เช่นนั้นคงได้นั่งงงๆ กับการตัดฉากสลับฉับๆ กับฉากจบที่เห็นคนในโรงเดียวกันยังบ่นว่าอะไรวะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น