วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[Movie] รีวิว 22 Jump Street --> (* * * 1/2)

รีวิว 22 Jump Street

ปีนี้มีหนังภาคต่ออยู่สองเรื่องที่เข้าฉายไล่เลี่ยกัน เรื่องนึงเป็นหนังแอนิเมชั่นที่มีชื่อ How to Train Your Dragon 2 และเรื่องต่อมาก็คือ 22 Jump Street ถึงแม้ว่าทั้งสองเรื่องจะเป็นหนังคนละแนว แต่ที่หยิบยกตัวอย่างขึ้นมาก็เพราะว่าทั้งคู่เป็นตัวอย่างของหนังภาคต่อชั้นดีที่สามารถทำลายอคติของคนที่ชอบคิดว่าหนังภาคต่อมักแย่กว่าภาคแรกเสมอ เพราะทั้ง 2 เรื่องก็ต่างก็กวาดทั้งเงินและกระแสวิจารณ์เป็นอย่างดีเยี่ยม ซึ่งตอนแรกนึกว่าทางค่ายจะไม่นำ 22 Jump Street เข้ามาฉายในไทยซะแล้วเนื่องจากภาคแรกก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมาก (รู้สึกจะไม่ได้เข้าโรงด้วยซ้ำ) แต่คงเพราะกระแสเมืองนอกที่ได้รับคำชมมาอย่างล้นหลาม จึงเป็นข่าวดีสำหรับคอหนังชาวไทยที่จะได้ดูแม้ว่าจะช้ากว่าเมืองนอกไปเกือบ 2 เดือนแล้วก็ตาม

รีวิว 22 Jump Street - pic1

โดย 22 Jump Street นั้น ดำเนินเรื่องเกือบๆ จะต่อมาจากภาคแรกหลังจากที่ เจนโก้และชมิดท์ ทำผลงานจับผู้ค้ายาเสพติดได้จากการที่แฝงตัวไปเป็นเด็กมัธยมปลายใน 21 Jump Street โดยมาในภาคนี้พวกเขาต้องกลับมารับภารกิจแฝงตัวเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนฉากหลังจากมัธยมปลายไปเป็นมหาวิทยาลัยแทน ซึ่งจะว่าไปแล้วพล็อตก็แทบไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไร หนังยังคงวนเวียนอยู่กับประเด็นคู่หู Bromance ได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังเดินหน้าเล่นมุกจิกกัดบรรดาหนังแอคชั่น รวมไปถึงหนังของตัวเองอยู่ตลอดแทบทั้งเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของหนังชุดนี้เลยก็ว่าได้

รีวิว 22 Jump Street - pic 2

จุดเด่นของ 22 Jump Street นั้นก็คือมุกตลกแพรวพราวชนิดที่ยิงเข้าเป้าแทบทุกมุก ทั้งนี้ต้องชมผู้กำกับและทีมเขียนบทที่สามารถทำให้ฉากตลกโง่ๆ ดูเป็นฉากฮาได้ระดับเกิน 10 กะโหลกเมื่อปล่อยออกมาให้จังหวะและโอกาสที่เหมาะสม แถมยังต้องชม Channing Tatum และ Jonah Hill ที่เป็นคู่หูที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดี และเล่นมุกหน้าตายกันได้เป็นธรรมชาติมากๆ ทำให้หนังดูเพลิดเพลินและฮาขึ้นเป็นกองเลย

รีวิว 22 Jump Street - pic 3
ด้วยมุกตลกที่สร้างสรรค์และรู้จังหวะเป็นอย่างดี รวมไปถึงฉากแอคชั่นฮาเฮแบบไม่สนตรรกะใดๆ ก็ทำให้หนังตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่ต้องการคลายเครียดหรือต้องการความบันเทิงแบบเต็มขั้น ชนิดที่ขำจนน้ำตาร่วง เพราะหนังมีให้คุณแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครที่ยังไม่เคยดูภาคแรกไปก่อนก็ไม่เป็นไรเพราะหนังมี Previously แบบพอสังเขปให้เบาๆ ถึงไม่เคยดูมาก็สามารถสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก เพียงแต่อาจจะไม่เก็ตบางมุก หรือไม่รู้จักตัวละครเก่าๆ บางตัวก็เท่านั้น










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น