 |
| รีวิว Edge of Tomorrow |
 | |
|
ซึ่ง Edge of Tomorrow นั้นเป็นเนื้อเรื่องของ เคจ พลทหารที่โยนไปออกรบแนวหน้าจนเสียชีวิต แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าหลังจากที่ตายแล้วเขากลับฟื้นขึ้นมาในวันก่อนหน้า และวนเวียนแบบนี้อยู่ทุกครั้งจนเขาต้องหาทางออกจากลูปนรกนี้ให้ได้ ซึ่งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้นต้องของบอกเลยว่ามีความซอฟมากกว่าเวอร์ชั่นนิยายอยู่มากพอตัว แถมยังแทรกมุกตลกร้ายมากมายที่ทำเอาฮาเฮกันอยู่หลายต่อหลายฉาก รวมถึงการปรับสถานการณ์ให้เข้ากับความเป็นอเมริกันมากขึ้น
 |
| รีวิว Edge of Tomorrow - pic2 |
ส่งผลให้ Edge of Tomorrow เปรียบเสมือนแฮมเบอร์เกอร์ที่ไม่เหลือความเป็นซูชิเจือปนอยู่เลยจนยากที่จะเปรียบเทียบทั้ง 2 เวอร์ชั่นกันได้ เพราะต่างก็เหมือนอาหารคนละชนิด ซึ่งเสน่ห์ของ Edge of Tomorrow เวอร์ชั่นหนังก็คือจังหวะการเดินเรื่องที่ฉับไวไหลลื่น และเดินเรื่องเร็วจนแทบไม่มีเวลาให้พักหายใจ ด้วยบทที่เข้มข้นและฉากแอคชั่นที่อลังการสนุกสนานก็ยิ่งผลักดันให้หนังดูเพลินสุดๆ และไม่เกิดความน่าเบื่อเลยตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของหนัง
 |
| รีวิว Edge of Tomorrow - pic3 |
แต่ถึงแม้หนังจะมีองค์ประกอบดีๆ หลายๆ อย่าง แต่น่าเสียดายที่เมื่อดูไปแล้วกลับรู้สึกว่าหนังขาดพลังและขาดการดึงอารมณ์ร่วมคนจากดู จนดูแล้วก็รู้สึกเหมือนเพลินๆ ไปเรื่อยๆ จนเมื่อหนังจบก็รู้สึกว่าจบแล้วจบเลยไม่เหลือแก่นสารใดๆ ให้ได้เก็บไปคิดต่อแม้แต่น้อย ทำให้สำหรับผมแล้ว Edge of Tomorrow ถือเป็นหนังบันเทิงป็อปคอร์นอีกเรื่องที่มอบความบันเทิงได้ค่อนข้างดีทั้งด้านเนื้อหาและฉากแอคชั่น ซึ่งเหมาะกับคอหนังแอคชั่นไซไฟเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ปลื้มมากขนาดจนยกให้เป็นหนังเทพอย่างที่คนอื่นๆ พูดถึงกัน
ป.ล. ในส่วนต่อจากนี้จะเป็นการสปอยถึงเกร็ดเปรียบเทียบฉบับนิยายกับในหนัง หากไม่ต้องการเสียอรรถรสในการชมแบบภาพยนตร์ หรือการอ่านก็ข้ามไปเลยครับ!
 |
| นิยาย All you need is kill (Edge of Tomorrow) |
1) เห็นพระเอกในหนังคือเคจอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วเวอร์ชั่นนิยายมีชื่อญีปุ่นว่า คิริยะ เคย์จิ นะ ซึ่งเคจ น่าจะแปลงว่าจาก เคย์จิ ส่วน ริต้า ชื่อตามฉบับนิยาย แต่ในนิยายที่เก่งเทพกว่าเยอะ
2) โทนเรื่องในต้นฉบับค่อนข้างเคร่งเครียดกว่าเยอะ มีลูปนึงที่พระเอกถึงกับลองเอาปืนเข้าปากยิงตัวตายก็มี!!
3) ในนิยายพระเอกตายถึง 158 ครั้งกว่าจะรู้วิธีออกจากลูปจาก ริต้า ซึ่งกว่าจะรู้ว่า ริต้า เป็นผู้เคยเข้าลูปมาก่อนก็ปาเข้าครึ่งเล่ม นับว่าเป็นจุดเซอไพรซ์ในนิยายมากๆ
4) พระเอกในนิยายลงทุนฝึกใช้ขวานขนาดใหญ่เช่นเดียวกับริต้า เนื่องจากเป็นอาวธที่ทรงพลังกว่าแถมกระสุนยังไม่มีวันหมด ต่างกับในหนังที่พระเอกใช้อาวุธจากชุดเกราะส่วนนางเอกใช้ดาบ
5) ตอนจบในนิยาย เคย์จิ (เคจ) กับ ริต้า ต้องฆ่ากันเองเพราะถือว่าตัวเองเป็น Back up การย้อนเวลาของตัวอัลฟ่า ถ้าไม่มีใครคนใดคนหนึ่งตาย ก็จะวนลูปไม่มีวันจบ ซึ่งสุดท้ายก็ลงเอยด้วยความตายของ ริต้า เรียกได้ว่าเศร้ากว่าแบบเวอร์ชั่นหนังเยอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น