 |
| รีวิว Captain Phillips |
จะว่าไปแล้ว Paul Greengrass ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับที่มีผลงานที่น่าจับตามองไม่น้อยเลย ด้วยสไตล์การตัดต่อภาพแบบฉับๆ บวกกับกล้องที่เหวี่ยงไปมาในซีนแอคชั่นจนเป็นเอกลักษณ์นั้น ก็ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบไปไม่น้อย อีกทั้งยังมีผลงานสร้างชื่อก่อนๆ อย่างหนังสายลับตระกูล The Bourne และ The United 93 ที่แสดงเห็นว่าเขาไม่ได้มีความสามารถแค่ทำหนังแอคชั่นดาดๆ เท่านั้น แต่ยังมีวิธีการเล่าเรื่องที่สนุก น่าตื่นตาตื่นใจ และยังทำซีนดราม่าได้อารมณ์อีกด้วย จนไม่น่าแปลกใจที่
Captain Phillips หนังเรื่องล่าสุดของเขาจะเป็นที่น่าจับตาทั้งบน Box Office และบนเวทีรางวัลต่างๆ ไม่น้อยเลย
 |
| Captain Phillip - Pic 1 |
ซึ่ง
Captain Phillips นั้นหยิบเอาเหตุการณ์จริงเมื่อปี 2009 เมื่อเรือขนสินค้าลำหนึ่งเกิดถูกโจรสลัดโซมาเลียเข้าปล้นและจับกัปตันของเรือเอาไว้เป็นตัวประกัน โดยสิ่งที่ทำให้
Captain Phillips น่าสนใจเป็นอย่างมากนั้นก็คือหนังไม่ได้มุ่งเน้นให้บรรดาแก๊งโจรสลัดโซมาเลียดูเป็นตัวร้ายที่มีแต่ด้านร้ายเพียงอย่างเดียว แต่หนังกลับเล่าเรื่องตัดสลับมุมมองตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ตัวละครทั้งสองฝั่งเริ่มออกไปทำงาน ต่างกันตรงที่งานของฝ่าย ฟิลิป คือออกไปเพื่อเป็นกัปตันดูแลการเดินเรือขนสินค้า ส่วนอีกฝ่ายงานของพวกเขาคือการออกทะเลไปดักปล้นเรือลำอื่นๆ
 |
| Captain Phillip - Pic 2 |
และหนังก็ใช้วิธีนี้ตัดสลับไปมาจนกระทั่งทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากัน ทำให้เราไม่ได้มองโจรสลัดเหล่านี้แค่ด้านเดียวอีกต่อไป เพราะยิ่งหนังเล่าเรื่องออกไปไกล ยิ่งเราได้เห็นบทสนทนาระหว่าง ฟิลิป กับแก๊งโจรสลัดมากขึ้นเราก็จะยิ่งเห็นอีกด้านและสภาวะที่บังคับที่ไร้ทางเลือกของตัวละครโจรสลัดเหล่านี้ มากขึ้นตามไปด้วย จนนบางฉากเราก็อดเห็นใจพวกเข้าขึ้นมาไม่ได้ ส่วนที่อยากชมต่อมาก็คือรายละเอียดของหนังที่ค่อนข้างดี ตัวละครมีไหวพริบช่างสังเกตจนน่าเอาใจช่วยให้รอดพ้นอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการแสดงระดับเทพที่บางฉากนึกว่าดูสารคดีของจริง โดยทั้งหมดนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้กับ Tom Hank and the Somali gang ไปเต็มๆ เพราะทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองในดีเยี่ยมมากๆ ในพื้นที่ที่จำกัด
 |
| Captain Phillip - Pic 3 |
แต่ใช่ว่า
Captain Phillips จะไม่มีข้อเสียเลย หากจะหักก็อาจเป็นแค่การเล่าเรื่องที่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าช่วงกลางๆ ค่อนข้างจะเวิ่นเว้อและอืดอาดไปนิดจนหาวออกมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ทั้งนี้อาจเป็นเพราะหนังสร้างจากเรื่องจริง รวมไปถึงพื้นที่ที่จำกัดทำให้หนังเล่นอะไรนอกจากนี้ไม่ได้มากก็พอจะเข้าใจ แต่โดยรวมๆ แล้วถึงอย่างไรก็ตาม หากหักเรื่องจังหวะการดำเนินเรื่องและบางฉากที่ดูไม่ค่อย Make sense ลงไป
Captain Phillips ถือเป็นหนังดราม่า-ทริลเลอร์ชั้นเยี่ยมอีกเรื่องของปี ที่มีดีทั้งการแสดง ความตื่นเต้นระทึกใจ และประเด็นทางสังคม ที่น่าจะถูกใจทั้งบรรดานักวิจารณ์และคนดูหนังทั่วไปไม่น้อยเลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น