วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

[Movie] รีวิว American Hustle --> (* * * *)


รีวิว American Hustle
ศิลปะการเอาตัวรอดนั้นถือเป็นอีกหนึ่งสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งแต่ละคนจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและประสบการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่อับจนหนทางและต้องเผชิญกับสภาวะความเสี่ยงแล้ว สัญชาตญาณการเอาตัวรอดก็มักจะถูกปลุกให้ขึ้นมาทำงานอยู่เสมอ แต่ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและใช้สมองเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินชีวิต ก็ทำให้ความแข็งแกร่งทางร่างกายอาจเป็นเพียงส่วนประกอบรองเมื่อเทียบกับการทำงานของสมองที่ส่งผลให้คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่เสมอ โดย American Hustle นั้นก็เป็นอีกหนึ่งหนังรางวัลชั้นเยี่ยมที่จะพาคนดูลงไปสู่วังวนของการต้มตุ๋นหลอกลวง และการใช้ศิลปะการเอาตัวรอดที่ว่านี้ของผู้คนอเมริกันในยุค 80s ผ่านทางตัวละครเอกทั้ง 5 คน

American Hustle-Pic 1
American Hustle นั้นเล่าเรื่องจากแฟ้มบัญชีดำในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับหนังอย่าง Argo เมื่อปีก่อน ซึ่งหากนับว่า Argo นั้นเป็นหนังกลุ่มอเมริกันไปหลอกต้มแขกแล้ว American Hustle ก็ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามของการนำแขกไปหลอกต้มนักการเมืองฝรั่งนั่นเอง โดย American Hustle เล่าย้อนไปในช่วงปี 80s ที่บรรดาเหล่า FBI หัวหมอที่นำทีมโดย รีชชี ดี มาโซ (Bradley Cooper) ได้ชักชวน ไอร์วิ่ง โรเซนไฟล์ (Christian Bale) นักต้มตุ๋นมือฉมังมาร่วมงานรวบหัวรวบหางบรรดานักการเมืองที่ฉ้อฉล เพื่อแลกกับการพ้นผิดในข้อหาหลอกลวงประชาชนที่ผ่านๆ มา โดยภารกิจที่ว่าก็คือการนำท่านชีค แห่งอาหรับ (ปลอม) มาเป็นตัวล่อให้นักการเมืองตัวเป้งอย่าง คาไมน์ (Jeremy Renner) มาติดกับให้ได้

American Hustle-Pic2
สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งของ American Hustle ก็คือการรวมดาราตัวพ่อ ตัวแม่ในวงการที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขานั้นเป็นดาราระดับ A List อย่างไม่ต้องสงสัย และที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือผู้กำกับอย่าง David O Russell ที่เคยร่วมงานกับดาราเหล่านี้มาบ้างแล้ว และเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ในการดึงด้านที่เด่นของนักแสดงได้อย่างเต็มเปี่ยมจนทำให้ปีที่แล้วเฮียแกเคยพา Jennifer Lawrence ขึ้นไปคว้าถ้วยออสการ์ดารานำหญิงมาครองได้สำเร็จ จากผลงานเรื่องก่อนหน้าที่มีชื่อว่า Silver Lining Playbook ซึ่งพอมาถึงเรื่อง American Hustle นั้น เฮียแกก็ไม่ได้ทำให้คนดูผิดหวังแต่อย่างใด เพราะเขาดันให้ดาราทุกคนนั้นเจิดจริสแบบไม่มีใครยอมใคร จนลบภาพการแสดงเก่าๆ ที่เคยติดตัวมาแทบทุกคนได้อย่างไร้ข้อข้องใจ ทั้งๆ ที่ Christian Bale ก็ติดภาพของ Batman มาจากไตรภาคนั้นก็ถูกลบออกไปด้วยคาแรคเตอร์นักต้มตุ๋นตัวแสบลงพุงหัวล้าน รวมไปถึง Jennifer Lawrence ก็ทำให้เราลืมเป็นเลยว่าเธอคือแคตนิสสาวน้อยผู้มากับไฟที่เพิ่งได้ดูไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา


American Hustle-Pic3
เมื่อพูดถึงเรื่องการแสดงแล้วจริงๆ ก็ต้องชมทุกคนใน American Hustle ที่ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดีจนหนังดูมีน้ำหนักและน่าเชื่อสุดๆ แต่ยังก็ขอลำเอียงเทใจไปให้ Jennifer Lawrence มากหน่อยกับบทเมียหลวงลูกติดของ ไอร์วิ่ง โรเซนไฟล์ ที่เล่นออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับบุคลิกของเธอมาก ซึ่งถึงแม้ว่าบท โรซาลินของเธอนั้นจะเป็นคาแรคเตอร์ที่ดูต่ำและดูโง่ๆ แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหล เป็นตัวขโมยซีนจอมรั่วที่น่ารักจนยากที่จะเกลียดตัวละครนี้ได้จริงๆ นอกจากการแสดงที่ว่าแล้ว หนังยังมีการกระจายบทของตัวละครออกได้ค่อนข้างดีให้ทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงของตัวเอง และทุกครั้งที่มีฉากที่ต้องเผชิญหน้ากันก็เล่นเอาน่าขนลุกได้ทุกคู่เช่นกัน 

American Hustle-Pic4

พล่ามถึงเรื่องการแสดงไปก็เยอะแล้วมาถึงเรื่องบทของกันบ้าง เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่า American Hustle มีบทที่เจ๋งและพิถีพิถันในการถ่ายทอดเป็นอย่างมาก หนังในช่วงแรกดำเนินเรื่องไปอย่างค่อนข้างใจเย็นให้เราได้รู้จักกับตัวละครและผูกพันกับพวกเขา ทั้งความนึกคิดและการวิถีชีวิตของพวกเขาจนเข้าใจถึงการกระทำต่างๆ ที่ตามมา ทำให้ถึงแม้ว่าการเดินเรื่องจะดูแอบเนือยไปบ้างในช่วงแรกแต่ก็ได้ผลดีเกินคาดในภายหลัง เพราะหากผ่านช่วงแรกของหนังไปได้แล้วนั้นในส่วนที่เหลือจะเป็นความบ้าพลังของทีมผู้สร้างที่ถ่ายทอดมาอย่างเต็มที่ จังหวะการดำเนินที่น่าติดตามอยู่ทุกวินาที มุกตลกร้ายสุดแสบที่ทำเอาฮาจนต้องปรบมือให้อยู่หลายฉาก รวมไปถึงความน่าติดตามของผลลัพธ์ในภารกิจว่าจะลงเอยไปทางไหนก็ทำให้คนดูพร้อมที่จะจดจ่อไปกับหนังได้จนจบเรื่องโดยที่ไม่มีอาการเบื่อแต่อย่างใด

American Hustle-Pic5
ความเจ๋งของบท American Hustle นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของรายละเอียดและความน่าติดตามเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นต่างๆ ให้เราได้ขบคิดมากมายอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งการตีแผ่สันดานการโกหกหลอกลวงของผู้คนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการ อีกทั้งยังมีตัวละครบางตัวที่ยอมโกหกตัวเองอยู่ตลอดและคอยหาเหตุผลเฉพาะในด้านดีมาสนับสนุนการกระทำของตัวเองเพื่อให้สบายใจจนลืมมองข้อเสียที่เน่าเฟะอีกด้านไป นอกจากนี้แล้วหนังยังตั้งคำถามถึงประเด็นการคอรัปชั่นผ่านทางตัวละครเทศมนตรีประจำเมืองอย่าง คาไมน์ ที่ชี้หน้าถามคนดูกันโต้งๆ ว่าตัวละครที่ยอมรับเงินสินบนคนนี้เป็นคนดีหรือไม่ และเราสามารถใช้แค่เรื่องของการโกงมาตัดสินความเป็นคนดีของผู้คนได้มากแค่ไหน ถ้าหากเจตนาของการคอรัปชั่นนั้นกลับทำไปเพื่อให้ผู้คนในเมืองมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยที่ไม่ได้สนใจผลประโยชน์ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย


American Hustle-Pic6

โดยสรุปแล้วนับเป็นประสบการณ์ที่สนุกเกินคาดสำหรับ American Hustle หนังมีทุกอย่างที่เกือบเพียบพร้อม และต้องยกให้เรื่องบทและการแสดงนั้นเป็นอันดับหนึ่งของปีเลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องขอเตือนไว้สักหน่อยว่า American Hustle อาจไมใช่หนังสำหรับทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่คาดหวังว่าหนังจะมีฉากแอคชั่นสุดมันส์ เพราะ American Hustle นั้นไม่มีฉากแอคชั่นไล่ยิงกันเลยแม้แต่ฉากเดียว แต่อาศัยการขับเคลื่อนของบทและการแสดงที่เข้มข้น จนต้องใช่สมาธิเป็นอย่างมากในการติดตามและจดจำรายละเอียดต่างๆ ที่มีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งจะส่งไปสู่ฉากสุดท้ายที่รวบรัดจนคิดตามแทบไม่ทันถ้าหากจำรายละเอียดที่ผ่านมาไม่ได้ ซึ่งหากคุณเป็นคนชอบหนังแนวนี้แล้วผมโคตรรรรรรแนะนำเลยครับ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น