 |
| รีวิว American Hustle |
ศิลปะการเอาตัวรอดนั้นถือเป็นอีกหนึ่งสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งแต่ละคนจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและประสบการณ์ที่ผ่านมา
ซึ่งทุกครั้งที่อับจนหนทางและต้องเผชิญกับสภาวะความเสี่ยงแล้ว สัญชาตญาณการเอาตัวรอดก็มักจะถูกปลุกให้ขึ้นมาทำงานอยู่เสมอ
แต่ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและใช้สมองเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินชีวิต ก็ทำให้ความแข็งแกร่งทางร่างกายอาจเป็นเพียงส่วนประกอบรองเมื่อเทียบกับการทำงานของสมองที่ส่งผลให้คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่เสมอ
โดย American Hustle นั้นก็เป็นอีกหนึ่งหนังรางวัลชั้นเยี่ยมที่จะพาคนดูลงไปสู่วังวนของการต้มตุ๋นหลอกลวง
และการใช้ศิลปะการเอาตัวรอดที่ว่านี้ของผู้คนอเมริกันในยุค 80s ผ่านทางตัวละครเอกทั้ง
5 คน
 |
| American Hustle-Pic 1 |
American Hustle นั้นเล่าเรื่องจากแฟ้มบัญชีดำในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับหนังอย่าง
Argo เมื่อปีก่อน ซึ่งหากนับว่า Argo นั้นเป็นหนังกลุ่มอเมริกันไปหลอกต้มแขกแล้ว
American Hustle ก็ถือว่าเป็นขั้วตรงข้ามของการนำแขกไปหลอกต้มนักการเมืองฝรั่งนั่นเอง
โดย American Hustle เล่าย้อนไปในช่วงปี 80s ที่บรรดาเหล่า FBI หัวหมอที่นำทีมโดย
รีชชี ดี มาโซ (Bradley Cooper) ได้ชักชวน ไอร์วิ่ง โรเซนไฟล์ (Christian
Bale) นักต้มตุ๋นมือฉมังมาร่วมงานรวบหัวรวบหางบรรดานักการเมืองที่ฉ้อฉล
เพื่อแลกกับการพ้นผิดในข้อหาหลอกลวงประชาชนที่ผ่านๆ มา โดยภารกิจที่ว่าก็คือการนำท่านชีค
แห่งอาหรับ (ปลอม) มาเป็นตัวล่อให้นักการเมืองตัวเป้งอย่าง คาไมน์ (Jeremy Renner)
มาติดกับให้ได้
 |
| American Hustle-Pic2 |
สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งของ American Hustle ก็คือการรวมดาราตัวพ่อ
ตัวแม่ในวงการที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขานั้นเป็นดาราระดับ A List
อย่างไม่ต้องสงสัย
และที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือผู้กำกับอย่าง David O Russell
ที่เคยร่วมงานกับดาราเหล่านี้มาบ้างแล้ว
และเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ในการดึงด้านที่เด่นของนักแสดงได้อย่างเต็มเปี่ยมจนทำให้ปีที่แล้วเฮียแกเคยพา
Jennifer Lawrence
ขึ้นไปคว้าถ้วยออสการ์ดารานำหญิงมาครองได้สำเร็จ จากผลงานเรื่องก่อนหน้าที่มีชื่อว่า
Silver Lining Playbook
ซึ่งพอมาถึงเรื่อง American Hustle นั้น
เฮียแกก็ไม่ได้ทำให้คนดูผิดหวังแต่อย่างใด เพราะเขาดันให้ดาราทุกคนนั้นเจิดจริสแบบไม่มีใครยอมใคร
จนลบภาพการแสดงเก่าๆ ที่เคยติดตัวมาแทบทุกคนได้อย่างไร้ข้อข้องใจ ทั้งๆ ที่ Christian
Bale
ก็ติดภาพของ Batman
มาจากไตรภาคนั้นก็ถูกลบออกไปด้วยคาแรคเตอร์นักต้มตุ๋นตัวแสบลงพุงหัวล้าน
รวมไปถึง Jennifer Lawrence
ก็ทำให้เราลืมเป็นเลยว่าเธอคือแคตนิสสาวน้อยผู้มากับไฟที่เพิ่งได้ดูไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
 |
| American Hustle-Pic3 |
เมื่อพูดถึงเรื่องการแสดงแล้วจริงๆ ก็ต้องชมทุกคนใน American
Hustle ที่ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดีจนหนังดูมีน้ำหนักและน่าเชื่อสุดๆ แต่ยังก็ขอลำเอียงเทใจไปให้
Jennifer Lawrence มากหน่อยกับบทเมียหลวงลูกติดของ ไอร์วิ่ง โรเซนไฟล์
ที่เล่นออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับบุคลิกของเธอมาก ซึ่งถึงแม้ว่าบท
โรซาลินของเธอนั้นจะเป็นคาแรคเตอร์ที่ดูต่ำและดูโง่ๆ แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหล
เป็นตัวขโมยซีนจอมรั่วที่น่ารักจนยากที่จะเกลียดตัวละครนี้ได้จริงๆ นอกจากการแสดงที่ว่าแล้ว
หนังยังมีการกระจายบทของตัวละครออกได้ค่อนข้างดีให้ทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงของตัวเอง
และทุกครั้งที่มีฉากที่ต้องเผชิญหน้ากันก็เล่นเอาน่าขนลุกได้ทุกคู่เช่นกัน
 |
| American Hustle-Pic4 |
พล่ามถึงเรื่องการแสดงไปก็เยอะแล้วมาถึงเรื่องบทของกันบ้าง
เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่า American Hustle มีบทที่เจ๋งและพิถีพิถันในการถ่ายทอดเป็นอย่างมาก
หนังในช่วงแรกดำเนินเรื่องไปอย่างค่อนข้างใจเย็นให้เราได้รู้จักกับตัวละครและผูกพันกับพวกเขา
ทั้งความนึกคิดและการวิถีชีวิตของพวกเขาจนเข้าใจถึงการกระทำต่างๆ ที่ตามมา
ทำให้ถึงแม้ว่าการเดินเรื่องจะดูแอบเนือยไปบ้างในช่วงแรกแต่ก็ได้ผลดีเกินคาดในภายหลัง
เพราะหากผ่านช่วงแรกของหนังไปได้แล้วนั้นในส่วนที่เหลือจะเป็นความบ้าพลังของทีมผู้สร้างที่ถ่ายทอดมาอย่างเต็มที่
จังหวะการดำเนินที่น่าติดตามอยู่ทุกวินาที
มุกตลกร้ายสุดแสบที่ทำเอาฮาจนต้องปรบมือให้อยู่หลายฉาก
รวมไปถึงความน่าติดตามของผลลัพธ์ในภารกิจว่าจะลงเอยไปทางไหนก็ทำให้คนดูพร้อมที่จะจดจ่อไปกับหนังได้จนจบเรื่องโดยที่ไม่มีอาการเบื่อแต่อย่างใด
 |
| American Hustle-Pic5 |
ความเจ๋งของบท American Hustle นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของรายละเอียดและความน่าติดตามเท่านั้น
แต่ยังมีประเด็นต่างๆ ให้เราได้ขบคิดมากมายอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
ทั้งการตีแผ่สันดานการโกหกหลอกลวงของผู้คนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการ
อีกทั้งยังมีตัวละครบางตัวที่ยอมโกหกตัวเองอยู่ตลอดและคอยหาเหตุผลเฉพาะในด้านดีมาสนับสนุนการกระทำของตัวเองเพื่อให้สบายใจจนลืมมองข้อเสียที่เน่าเฟะอีกด้านไป
นอกจากนี้แล้วหนังยังตั้งคำถามถึงประเด็นการคอรัปชั่นผ่านทางตัวละครเทศมนตรีประจำเมืองอย่าง
คาไมน์ ที่ชี้หน้าถามคนดูกันโต้งๆ
ว่าตัวละครที่ยอมรับเงินสินบนคนนี้เป็นคนดีหรือไม่ และเราสามารถใช้แค่เรื่องของการโกงมาตัดสินความเป็นคนดีของผู้คนได้มากแค่ไหน
ถ้าหากเจตนาของการคอรัปชั่นนั้นกลับทำไปเพื่อให้ผู้คนในเมืองมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยที่ไม่ได้สนใจผลประโยชน์ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
 |
| American Hustle-Pic6 |
โดยสรุปแล้วนับเป็นประสบการณ์ที่สนุกเกินคาดสำหรับ American
Hustle หนังมีทุกอย่างที่เกือบเพียบพร้อม และต้องยกให้เรื่องบทและการแสดงนั้นเป็นอันดับหนึ่งของปีเลยก็ว่าได้
แต่ก็ต้องขอเตือนไว้สักหน่อยว่า American Hustle อาจไมใช่หนังสำหรับทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่คาดหวังว่าหนังจะมีฉากแอคชั่นสุดมันส์
เพราะ American Hustle นั้นไม่มีฉากแอคชั่นไล่ยิงกันเลยแม้แต่ฉากเดียว
แต่อาศัยการขับเคลื่อนของบทและการแสดงที่เข้มข้น
จนต้องใช่สมาธิเป็นอย่างมากในการติดตามและจดจำรายละเอียดต่างๆ ที่มีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
ซึ่งจะส่งไปสู่ฉากสุดท้ายที่รวบรัดจนคิดตามแทบไม่ทันถ้าหากจำรายละเอียดที่ผ่านมาไม่ได้
ซึ่งหากคุณเป็นคนชอบหนังแนวนี้แล้วผมโคตรรรรรรแนะนำเลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น